ทันตกรรมสวยงาม (สะพานฟัน) การทำสะพานฟันคืออะไร?

การทำฟันปลอมด้วยเทคนิคนี้ก็ตรงตามชื่อ หมอจะใช้ฟันธรรมชาติซี่ที่อยู่ข้างเคียงกับจุดที่ฟันหายไป ให้กลายมาเป็นหลักในการยึดฟันปลอม เทคนิคนี้เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหา ฟันบิ่น, แตก, หัก, ร้าว หรือถูกถอนออก ซึ่งก็จะทำให้โครงสร้างรูปลักษณ์โดยรวมของฟันดูมีความสมบูรณ์ขึ้น ไม่มีเศษอาหารข้าไปอุดอยู่ในจุดที่ฟันหายไป ทำให้เคี้ยวข้าว เคี้ยวอาหารได้อย่างเต็มคำมากขึ้น

เทคนิคสะพานฟันเหมาะกับใครบ้าง?

เทคนิคการทำฟันปลอมแบบสะพานฟัน จัดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการทำฟันปลอมแบบติดแน่น มีข้อดีที่โดดเด่นคือสามารถใช้แทนฟันได้ตั้งแต่ 1 ซี่ และเหมาะกับคนไข้ที่มีความต้องการ หรือมีปัจจัยเหล่านี้

• คนไข้ที่มีฟันแท้หลุดออกไป และไม่อยากใส่ฟันปลอมแบบถอดได้
• ฟันแท้หลุดออกไปมากกว่า 1 ซี่ และเป็นซี่ที่อยู่ติดกัน
• ฟันแท้หลุดออกไปมากกว่า 1 ซี่ และจำเป็นต้องทำรากฟันเทียมเพิ่มเติมด้วย ในกรณีนี้คนไข้ไม่จำเป็นต้องทำรากฟันเทียมทุกซี่ แต่จะใช้ซี่ที่ทำรากฟันเทียม เป็นหลักยึดเพื่อใส่สะพานฟัน

บริการสะพานฟัน และผลิตภัณฑ์ดูแลสะพานฟัน จาก ARTISTRY Clinic

ขอข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

ขั้นตอนการทำสะพานฟันเบื้องต้น

1. วางแผนการรักษา และติดสะพานฟันแบบชั่วคราว

เป็นขั้นตอนของการเลือกสีและวัสดุสะพานฟัน หลังจากที่วางแผนร่วมกันเสร็จคราวนี้ก็ถึงเวลาเตรียมฟัน หมอก็จะทำการกรอฟันซี่ที่จะใช้ยึดเพื่อเป็นฐานของสะพานฟัน หลังจากนั้นก็จะทำการยึดติดสะพานฟันแบบชั่วคราว เพื่อรอตัวจริง ใช้เวลา 5-7 วัน

2. ติดสะพานฟันตัวจริง

หลังจากที่แล็บทันตกรรมส่งสะพานฟันตัวจริงมาแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาติดตั้ง หมอก็จะรื้อสะพานฟันแบบชั่วคราวออก และใส่สะพานฟันแบบถาวรเข้าไปแทน ขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลา เพราะว่าหมอจะปรับแต่งให้มีความเหมาะสมกับช่องปากของคนไข้มากที่สุด

สุดท้ายหมอก็จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีทำความสะอาด และวิธีดูแลแบบละเอียด และหลังจากนั้นอีกประมาณ 7 - 14 วัน หมอก็นัดให้คนไข้กลับมาใหม่ เพื่อเช็กเก็บงาน

หลังจากที่เตรียมฟันไปและใส่สะพานฟันเสร็จแล้ว หลังจากนั้นคนไข้ก็อาจจะมีความรู้สึกเสียวฟันได้บ้าง แต่อาการเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ หายไปเอง

ทำไมถึงต้องใส่สะพานฟัน?

การทำสะพานฟันก็คือการทำฟันปลอมชนิดติดแน่นรูปแบบหนึ่ง ที่นำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาคนให้คนไข้ที่ฟันหายไปในบางจุดของช่องปาก สามารถใช้ในการแก้ไขปัญหาได้หลายด้านไม่ว่าจะเป็น

• เป็นการติดฟันปลอมแบบติดแน่นให้กับคนไข้ในจุดที่ฟันหายไป ทำให้การรับประทานอาหารการบดเคี้ยว สามารถทำได้ตามปกติและการที่คนไข้มีฟันครบทั่วทั้งปาก ก็จะเป็นการช่วยแบ่งภาระแรงกดเคี้ยวที่ฟันซี่อื่น ๆ ต้องรับภาระหนักให้กลับมาปกติ มีการกระจายการทำงานของฟันไปทั่วทั้งปาก เพราะถ้ามีการปล่อยให้ฝันบางซี่รับภาระหน้าที่หนักมากจนเกินไป อาจทำให้เกิดแรงกดที่ฟันและกรามมากขึ้น และคนไข้ก็จะปวดฟันหรือกรามบริเวณนั้น
• ทำให้คนไข้พูดคุย ยิ้มได้อย่างมีความสุขและมั่นใจมากขึ้น
• การที่มีฟันเติมเต็มทั่วทั้งปาก จะช่วยป้องกันไม่ทำให้ฟันซี่อื่นเคลื่อน หรือไม่ทำให้เกิดฟันล้ม
• ช่วยคงสภาพรูปหน้าของคนไข้เพราะว่าถ้ามีจุดช่องว่างภายในฟันซี่ใดซี่หนึ่งของช่องปาก ก็จะทำให้คนไข้พบกับความเสี่ยง กระดูกขากรรไกรเคลื่อน โดยกระดูกในส่วนนี้มีหน้าที่รองรับช่องปากและโหนกแก้ม ช่วยรักษาคงสภาพให้มีรูปร่างของโครงหน้าและโหนกแก้มให้อยู่ในสภาพปกติ แต่ถ้าฟันบางจุดหายไป กระดูกขากรรไกรไม่ปกติ ก็จะทำให้รูปหน้าดูเปลี่ยนไปได้

ประเภทของสะพานฟัน

สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท โดยเกณฑ์การแบ่งนี้ก็จะแบ่งตามลักษณะของการยึดติดของสะพานฟัน ได้แก่

1. สะพานฟันทั่วไป

เป็นรูปแบบที่มักจะพบเห็นกันมากที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุด วัสดุที่ใช้ในการทำสะพานฟันจะทำจากเซรามิก หรือพอร์ซเลนหลอมเข้ากับเหล็ก สะพานฟานประเภทนี้จะยึดติดกับฟันธรรมชาติบริเวณ 2 ข้าง ด้วย Pontic หรือตัวครอบฟันลอย 1 ซี่หรือมากกว่านี้ก็ได้ ซึ่งหมอจะพิจารณาแบบเคสบายเคส ใช้ทดแทนฟันที่สูญเสียไป

2. สะพานฟันมีหลักยึดข้างเดียว

ลักษณะของฟันปลอมชนิดนี้ก็คือจะมีสะพานฟัน ยึดติดอยู่กับข้างครอบฟันแค่ซี่เดียว ลักษณะของสะพานฟันชนิดนี้ จึงคล้ายกับการติดกันอยู่ 2 ซี่ ทำให้เป็นการทำสะพานฟันแบบ 2 ซี่นั่นเอง สำหรับวิธีการทำสะพานฟันแบบนี้ จะไม่กระทบกระเทือนกับฟันธรรมชาติมากเท่าไหร่

3. สะพานฟันแบบแมรี่แลนด์

คือ สะพานฟันที่ยึดด้วยวัสดุเรซิน เป็นการทำสะพานฟันโดยที่มีฟันปลอมอยู่ 1 ซี่ หมอจะยึดฟันปลอมเอาไว้ด้วยโครงเหล็กที่ทำหน้าที่ ยึดฟันไว้ทั้ง 2 ข้าง ถ้าสังเกตอุปกรณ์ชนิดนี้จะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับผีเสื้อ

วิธีเตรียมตัวก่อนทำสะพานฟัน และดูแลรักษาหลังทำสะพานฟัน

• ขั้นตอนก่อนการทำสะพานฟัน หมอก็จะทำการเช็กช่องปากของคนไข้เพื่อหาฟันซี่ที่จะใช้เป็นหลักยึด เมื่อเช็กและแก้ไขปัญหาที่อาจมีเรียบร้อยแล้ว หมอก็จะทำการกรอฟัน และติดตั้งสะพานฟันแบบชั่วคราว
• คนไข้จะต้องงดการทานอาหารที่มีความแข็ง ความเหนียว ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากที่ยึดติดสะพานฟันไป และควรรับประทานอาหารอ่อน ๆ นิ่ม ทานง่าย จนกว่าจะชิน
• สำหรับคนไข้ที่มีอาการเสียวฟันหลังจากที่ติดตั้งสะพานฟันไปแล้ว หมอขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ร้อนจัดเย็นจัดหรือมีความเป็นกรดมากจนเกินไป และเลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ หรือถ้าเสียวฟันมาก ๆ ก็สามารถทานยาแก้ปวดได้ ซึ่งก็จะช่วยบรรเทาอาการเสียวฟันไปได้
• และอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญมาก ๆ เลยก็คือการดูแลรักษาทำความสะอาด เนื่องจากเป็นฟันปลอมแบบติดแน่นที่ไม่สามารถถอดออกมาล้างได้ ก็จะต้องใส่ใจในเรื่องของการแปรงฟัน การนำเศษอาหารต่าง ๆ เคลียร์ออกจากช่องปากให้หมดเพื่อป้องกันการหมักหมม

ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้ทำสะพานฟันไม่ได้?

ถึงแม้ว่าการทำสะพานฟันจะมีประโยชน์มากมาย และสามารถประยุกต์ใช้ได้กับการสูญเสียฟันของคนไข้ได้ในหลากหลายรูปแบบ มีความเป็นธรรมชาติ มีความแนบเนียน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บางประการ

• ด้วยความที่เป็นฟันปลอมแบบติดแน่นและมีลักษณะเป็นสะพานเชื่อม ดังนั้นการทำความสะอาดสะพานฟันจะทำความสะอาดยากกว่าฟันธรรมชาติ ถ้าดูแลรักษาทำความสะอาดไม่ดี ไม่นำเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ออกมาให้หมด ก็อาจจะทำให้เกิดกลิ่นปาก เกิดการหมักหมม ทำให้เหงือกอักเสบได้
• ถ้าคนไข้มีปัญหาสุขภาพในช่องปาก เช่น เหงือกอักเสบ ก็จะต้องรักษาให้หายดีก่อนครับถึงจะเริ่มลงมือทำสะพานฟันได้
• การทำสะพานฟันจะส่งผลเอฟเฟ็กต์ต่อฟันที่อยู่ข้างเคียง เพราะว่าหมอจะต้องทำการกรอฟันซี่ข้างเคียงให้เล็กลง เพื่อทำการติดตั้งอุปกรณ์เข้าไปให้เป็นฐานครอบฟัน ในกรณีนี้ทำให้คนไข้ไม่สบายใจ หมอก็จะแนะนำให้เลือกทำรากฟันเทียมแทน

รีวิวผลลัพธ์จากลูกค้าของ ARTISTRY Clinic

อายุของสะพานฟันที่ทำไปครั้งหนึ่งแล้ว สามารถอยู่ได้นาน 5 - 15 ปี ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคความเชี่ยวชาญของหมอร่วมกับการดูแลรักษาทำความสะอาดของคนไข้ และที่สำคัญเลยคนไข้จะต้องมาพบหมอทุกครั้งที่มีการนัด เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของสะพานฟันเป็นระยะ ๆ