การจัดฟันคืออะไร
หัวใจสำคัญในการจัดฟันก็คือ ใช้ในการแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ไม่สมดุลกัน เช่น ฟันเก ฟันซ้อน ฟันไม่สบกัน ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของการบดเคี้ยว หรือมีเศษอาหารไปอุดตันในส่วนที่เข้าถึงยาก ทำให้เกิดปัญหากลิ่นปาก หรือฟันผุตามมา แต่เมื่อทำการจัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว คนไข้บางคนก็อาจจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของรูปหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป
เช่น ใบหน้าเล็กลง โหนกแก้มลดลง คางยาวขึ้น เป็นต้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นอย่างชัดเจนในทุก ๆ เคสนะครับในเรื่องของโครงหน้า แต่ในเรื่องของการเรียงตัวของฟันจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนแน่นอน
การจัดฟันเหมาะกับใครบ้าง
ตามปกติแล้วถ้าพบว่าฟันของตัวเองมีปัญหายิ่งรีบจัดฟันก็ยิ่งดีครับ แต่สำหรับบางคนพึ่งมาตัดสินใจจัดเอาตอนอายุ 30 กว่า ๆ หรือ 40 ก็มีเพราะมีปัญหาในเรื่องของการเคี้ยวอาหาร หรือมีปัญหาในช่องปากเรื้อรัง จนทำให้ตัดสินใจมาจัดครับ และอายุที่เหมาะสมกับการจัดฟันที่สุด คือช่วงวัย 12 -15 ปี เพราะฟันน้ำนมหลุดออกหมดแล้ว และฟันแท้ก็ขึ้นมาจนครบแล้วนั่นเอง และการจัดฟันจะใช้ในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ครับ
- ฟันบนยื่น
- ฟันล่างยื่น
- ฟันกัดคร่อม
- ฟันสบเปิด
- ฟันกัดเบี้ยว
- ฟันห่าง
- ฟันซ้อน
บริการจัดฟัน และ ผลิตภัณฑ์ดูแลการจัดฟันของ ARTISTRY Clinic
ที่ ARTISTRY Clinic มีทั้งการจัดฟันแบบใส และแบบโลหะ หมอสามารถให้คำแนะนำได้ทั้ง 2 แบบครับ
- การจัดฟันใส เป็นนวัตกรรมใหม่ในการจัดฟันใหม่กำลังมาแรง ก่อนอื่นหมอจะต้องทำการสแกนช่องปากของคนไข้ก่อน ด้วยเครื่อง Intraoral Scanner เป็นเครื่องสแกน 3 มิติที่สามารถจำลองภาพฟันของคนไข้ หลังจากนั้นก็จะนำภาพที่สแกนได้ไปจำลองการเคลื่อนที่ของฟัน เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป และจัดทำชิ้นงานพลาสติกใสขึ้นมา โดยที่คนไข้จะต้องทำการเปลี่ยนอุปกรณ์จัดฟันใสตามระยะที่หมอแนะนำครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ “วินัย” ของคนไข้เอง เพราะต้องใส่อย่างน้อย 20 ชั่วโมง/วัน และจะแนะนำให้ถอดในช่วงเวลาทานอาหาร และแปรงฟันเท่านั้นครับ
- การจัดฟันเหล็ก การจัดฟันในรูปแบบนี้หมอจะวางแผนการรักษา ด้วยการอ้างอิงจากพิมพ์ฟันของคนไข้ เพื่อประเมินว่าควรติดเหล็กจัดฟันที่ตำแหน่งใดของฟัน ซึ่งคนไข้จะต้องมาพบหมอทุกเดือนเพื่อเปลี่ยนลวดดึงฟันและเปลี่ยนยาง O-Ring , C-Chain หรือ Elastic ขึ้นอยู่กับแนวทางในการรักษาในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งหมอก็จะมีการจดรายละเอียดการเปลี่ยนแปลง และวางแผนแนวทางในการรักษาทุก ๆ เดือน เพื่อที่จะทำให้ฟันของคนไข้เข้าที่ ในเวลาที่เหมาะสมที่สุดครับ
ขั้นตอนการจัดฟันเบื้องต้น
ก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องการจัดฟันต้องวางแผนกันแบบยาว ๆ เลยครับ เพราะขั้นต่ำจะอยู่ที่ 2 – 3 ปี แต่สำหรับบางเคสที่มีปัญหาในเรื่องของการเรียงตัวของฟันที่ค่อนข้างซับซ้อน อาจจะใช้เวลานานกว่านี้ก็มี หมอจะดูให้แบบเคสบายเคสเลยครับ และมี 7 ขั้นตอนคร่าว ๆ ดังนี้
1. มาคุยกับหมอกันก่อน
ขั้นตอนนี้หมอจะทำการตรวจเช็กการเรียงตัวของฟันอย่างละเอียด เพื่อนำปัญหาที่คนไข้พบเจอมาวางแผนแนวทางการรักษาต่อไป แล้วหมอจะแนะนำข้อมูลให้คนไข้ทราบถึงข้อควรปฏิบัติ การดูแลทั้งก่อนจัด ระหว่างจัด และหลังจัดฟัน และสุดท้ายก็จะสรุปรายละเอียดค่าใช้จ่าย คนไข้จะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการตัดสินใจครับ
2. ตรวจสุขภาพภายในช่องปาก
หลังจากที่คนไข้ตัดสินใจแล้วว่าอยากจะจัดฟัน หมอก็จะทำการตรวจสุขภาพช่องปากให้ก่อนเพื่อเช็กปัญหาสุขภาพเหงือกและฟัน ถ้าเจอปัญหาตรงไหนก็จะต้องเคลียร์ช่องปากให้เรียบร้อยก่อน หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนพิมพ์ปาก เพื่อทำแบบจำลองฟัน เพื่อนำโครงสร้างฟันและการสบของฟันมาตรวจอีกครั้ง และจบด้วยการเอกซเรย์ฟัน เพื่อเช็กกระดูกขากรรไกรว่ามีความผิดปกติอะไรหรือไม่
3. เลือกแผนในการจัดฟัน
การจัดฟันด้วยโลหะเป็นวิธีการจัดฟันที่อาจจะได้รับความนิยมมากที่สุดในอดีตแต่ในปัจจุบัน มีวิธีการจัดฟันรูปแบบอื่น ๆ ให้เลือกอีกหลายแบบ เช่น จัดฟันแบบเซรามิก, จัดฟันแบบใส, จัดฟันแบบดามอน และอื่น ๆ ซึ่งก็มีข้อดีที่แตกต่างกันไปครับ
4. เคลียร์ช่องปาก
เคลียร์ช่องปากให้สะอาด เพื่อเตรียมติดอุปกรณ์ เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟันคุด และอื่น ๆ ขั้นตอนเคลียร์ช่องปากนี้ก็เพื่อป้องกันปัญหาทีอาจจะเกิดตามมาภายหลัง หลังจากที่ทำการติดเครื่องมือไปแล้ว
5. ติดเครื่องมือจัดฟัน
ในที่สุดก็ถึงเวลาติดเครื่องมือจัดฟันลงบนผิวฟันกันแล้ว ซึ่งจะติดอุปกรณ์ชนิดไหนก็ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดฟันที่คนไข้เลือก โดยจะมีรูปแบบในการจัดฟันหลัก ๆ ดังนี้
- จัดฟันแบบโลหะ เป็นรูปแบบวิธีการจัดฟันที่เราทุกคนต่างคุ้นเคยกันดี เห็นตัวอุปกรณ์ได้อย่างชัดเจนจากภายนอก โดยหมอจะทำการใส่ลวดเข้าไปยึดติด ซึ่งทำหน้าที่ใช้ในการดึงฟัน และลวดจะถูกรัดอยู่ในแบล็คเก็ตด้วยยางจัดฟันอีกทีนึง ในส่วนของยางจัดฟันนี้จะต้องมีการเปลี่ยนทุกเดือน ซึ่งคนไข้สามารถเลือกสีได้เองตามใจชอบเลย เป็นหนึ่งในความสนุก ของคนที่จัดฟันแบบโลหะครับ
- จัดฟันแบบใส เป็นอีกหนึ่งวิธีของการจัดฟันที่กำลังมาแรง จุดเด่นของการจัดฟันด้วยวิธีนี้คือคนไข้ไม่ต้องมาพบหมอบ่อย ๆ และตัวอุปกรณ์จะสังเกตเห็นได้ยากมากเพราะว่ามีลักษณะเป็นสีใส ก่อนอื่นหมอจะสร้างแผนการรักษา 3 มิติขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นก็จะทำการส่งข้อมูลเพื่อนำไปไปผลิตเจ้าตัวเครื่องมือจัดฟันใสนี้ขึ้นมา หลังจากนั้นเมื่อของมาถึง หมอก็จะมอบอุปกรณ์จัดฟันแบบใส invisalign ให้แก่คนไข้ ซึ่งจะได้รับประมาณ 3-4 เซ็ตในแต่ละครั้ง และคนไข้จะต้องทำการใส่ทุกวัน และเปลี่ยนทุก ๆ 2 สัปดาห์
6. กลับมาพบหมอเพื่อเปลี่ยนเครื่องมือ และติดตามผลการรักษา
คนไข้จะมาพบหมอบ่อยเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่คุณเลือกติด เช่น การจัดฟันใสคนไข้จะได้มาที่คลินิกทุก 6-8 สัปดาห์ แต่ถ้าเป็นการจัดฟันแบบโลหะ หมอจะนัดมาเจอทุก ๆ 1 เดือน
7. ถอดเครื่องมือจัดฟัน
หลังจากทำการจัดฟันตามแผนการรักษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว คราวนี้หมอก็จะทำการถอดเครื่องมือจัดฟันให้นะครับ และก็จะเปลี่ยนไปใส่รีเทนเนอร์แทน เพื่อไม่ทำให้เกิดฟันล้ม ฟันเก หรือฟันห่างหลังจากจัดฟันไป ส่วนจะใส่นานเท่าไหร่นั้น หลังจากจัดเสร็จหมอจะประเมินให้อีกทีครับ
คำแนะนำเพิ่มเติมจากหมอถึงคนไข้ที่กำลังสนใจอยากจะจัดฟัน เพราะการจัดฟันอย่างเดียวไม่ใช่ว่าจะจบเลยนะครับ หลังจากที่เอาเครื่องมือในการจัดฟันออกแล้ว คนไข้ก็จะต้องใส่รีเทนเนอร์ต่อ และจะเน้นมาก ๆ เลย ในช่วง 3-4 เดือนแรกหลังการจัดฟัน คนไข้จะต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา ยกเว้นตอนเดียวก็คือตอนทานข้าวเท่านั้นครับ รีเทนเนอร์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการคงสภาพฟันหลังจากที่จัดฟันเสร็จแล้วถ้าคนไข้ไม่ใส่รีเทนเนอร์จะมีความเสี่ยงทำให้เกิดฟันล้ม ฟันเกได้ ซึ่งถ้าอยากกลับมามีฟันที่สวยคนไข้ก็จะต้องลงทุนจัดฟันใหม่อีกครั้ง ซึ่งก็จะต้องเสียทั้งเงินและเสียทั้งเวลาอีก ดังนั้นเชื่อหมออยากมีฟันสวย ก็จะต้องมีวินัยควบคู่กันไปด้วยนะครับ
วิธีดูแลตัวเองหลังจากการจัดฟัน
หลังจากที่คนไข้ได้ติดเครื่องมือหรืออุปกรณ์กลับไปแล้ว การดูแลรักษาทำความสะอาดนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก ๆ เลยครับเพราะว่าการจัดฟันแบบโลหะซึ่งมีลักษณะเป็นลวด จะทำให้เกิดเศษอาหารอุดตันหรือเกิดการหมักหมมได้ง่ายมาก ๆ เลย แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะหมอมีวิธีดูแลมาฝากกันครับ
- แปรงฟันหลังทานอาหารเสร็จทุกครั้ง เพื่อป้องกันเศษอาหารหมักหมม อาจทำให้เกิดกลิ่นปากได้ และให้เพิ่มเข้าไปอีก 2 รอบก็คือให้แปรงฟันในช่วงเช้า (ตื่นนอน) กับช่วงดึก (ก่อนนอน)
- หมอขอแนะนำให้เลือกใช้แปรงขนนุ่ม หรือแปรงสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ ทำให้ซอกซอนเข้าไปตามมุมอับต่าง ๆ ของเหล็กจัดฟันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- และถ้ามีแปรงซอกฟันที่ใช้ทำความสะอาดตามซอกเครื่องมือจัดฟัน จะยิ่งดีเลยครับ
- ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อป้องกันฟันผุ
- ช่วงแรก ๆ ที่ทำการติดเครื่องมือจัดฟัน หรือปรับลวด อาจมีอาการปวดฟัน ปวดเหงือกได้ครับ ถ้าปวดมากสามารถทานยาแก้ปวดได้เลย
รีวิวผลลัพธ์ที่ลูกค้าเราเคยจัดฟันให้ได้ผลยังไง
ARTISTRY Clinic เชี่ยวชาญเรื่องการจัดฟัน
คลินิกทันตกรรมที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย คุณหมอเฟรมมีความเชี่ยวชาญในการจัดฟันมาก มีเคสตัวอย่างและรีวิวให้ได้ศึกษาก่อน มีรางวัลรับรอง ใส่ใจให้บริการคนไข้ทุกเคสอย่างดีที่สุด
- เครื่องมือได้รับมาตรฐานระดับสากล
- จัดได้ทุกเคส เคสยากก็จัดการให้ได้
- ฟันเข้าที่เร็วประหยัดทั้งเงินและเวลา
- วางแผนการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ยื้อเคส
..............................................................
เปิดทำการตั้งแต่ 11:00 - 20:00 น.
Line : @artistrydental
Tel : 06-5959-7215
Location : ซ.โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว
ถ.บางนาตราด ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ