Treatment ของ Trio-care คืออะไร

Treatment ของ Trio-care เป็นการดูแลผิวที่ประกอบด้วย 3 สเต็ป ช่วยในการจัดการปัญหาฝ้า กระ ริ้วรอยต่าง ๆ เหมาะกับผู้ที่อยากมีผิวที่สวยดูดีขึ้น โดยที่ไม่อยากจะเข้ารับการทำหัตถการที่มีความเจ็บอย่างการฉีด หรือไม่อยากจะพักผิวนาน ที่มาของโปรแกรมนี้ก็มาจากที่คุณหมอฝ้าย เข้าใจถึงความต้องการและปัญหาของลูกค้าที่มักจะพบเจอบ่อย ๆ

คุณหมอก็ได้นำเทคโนโลยีที่ใช้ในการแก้ปัญหาใหม่นี้ เข้ามาใช้ในคลินิก โดยนำเข้ามาจากต่างประเทศ การทำทรีตเมนต์บำรุงผิวชั้นลึกด้วยโปรแกรม Trio-care นี้จะไม่ใช้เข็มใด ๆ ทั้งสิ้น แต่จะใช้เป็นตัวเครื่องที่ใช้ไฟฟ้ากระตุ้นเพื่อเปิดผิว และทำให้สารบำรุงต่าง ๆ เข้าไปสู่ผิวชั้นลึกได้แบบเต็มที่ โดยที่ไม่ทิ้งรอยแผลหรือไม่ทิ้งความเจ็บเอาไว้เลย

Treatment ของ Trio-care เหมาะกับใครบ้าง

เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ช่วยในการฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดีแข็งแรงได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้การฉีดผิวแต่อย่างใด และยังมีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี นำมาผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย และจากประสบการณ์และความรู้ของคุณหมอฝ้าย ก็จะช่วยทำให้ผู้ใช้บริการทุกคนเกิดความไว้วางใจ สบายใจ สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้จริง

ผู้ที่มีปัญหาผิวอ่อนแอ ผิวคล้ำเสีย อยากฟื้นฟูผิวในระยะเวลาอันสั้น
ผู้ที่อยากทำทรีตเมนต์บำรุงผิวแต่กลัวเจ็บ ไม่อยากทำหัตถการที่มีเข็ม หรือไม่อยากจะพักฟื้นผิวหน้านาน
เป็นการทำทรีตเมนต์ ที่ช่วยกระตุ้นเซลล์ ทำให้เซลล์บนใบหน้าทำงานตื่นตัวได้ดีขึ้น ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์
ตัวยาและสารอาหารที่นำมาใช้บำรุงผิวหน้าคนไข้ มาจากบริษัทชื่อดังอย่าง ToSKani
เป็นการทำหัตถการด้วยเครื่องมือที่มีคุณภาพ มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ดี

บริการ Treatment และผลิตภัณฑ์ Trio-care จาก ARTISTRY Clinic

ความพิเศษของโปรแกรม Treatment ของ Trio-care คือ นอกจากจะใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในการช่วยผลักสารบำรุงให้เข้าสู่ผิวชั้นลึกโดยที่
ไม่ต้องใช้เข็มแล้ว ทาง ARTISTRY Clini ก็ยังเลือกใช้ตัวยาบำรุงที่มีคุณภาพจากบริษัท TOSKANI แบรนด์ที่มีห้องปฏิบัติการอยู่ที่บาร์เซโลนา ก่อตั้งในปี 1953 จนถึงปัจจุบัน ในช่วงระยะเวลา 70 ปีผ่านมา ผลิตภัณฑ์จาก TOSKANI ได้รับการยอมรับและนำไปใช้ในอีก 50 ประเทศ

TOSKANI เป็นบริษัทที่ทำการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ ด้านเภสัชกรรม ที่นำมาใช้ในการฉีด การบำบัดด้วยเมโส ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์
บำรุงผิวที่ใช้ในคลินิกเสริมความงาม และอื่น ๆ

TOSKANI มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้
งานทุกคน

ขั้นตอนการทำ Treatment ของ Trio-care เบื้องต้น

ขั้นตอนการทำ Treatment ของ Trio-care เป็นการดูแลผิวที่ประกอบด้วย 3 สเต็ป ในแต่ละขั้นตอนของการทำทรีตเมนต์ ก็จะมีการอธิบายข้อมูล
ความรู้ให้คนไข้ได้ทราบข้อมูลเป็นระยะ ๆ ด้วย ทำให้ทราบขั้นตอนและความรู้อย่างถูกต้องในการทำทรีตเมนต์

1. ขั้นตอนแรกเริ่มจากการเปิดผิว ด้วยการใช้ liposome เปิดผิว เพื่อเตรียมความพร้อมของผิว ทำให้สาร active ingredient ในขั้นตอนต่อไป
ลงไปในผิวชั้นลึกได้อย่างเต็มที่ ซึ่งความพิเศษของโปรแกรมนี้ก็คือในขั้นตอนการเปิดผิว จะมีการเลือกสูตรตัวสารบำรุงที่เหมาะกับผิวของแต่
ละคน ดังนั้นจึงอ่อนโยนไม่เกิดการทำลายผิว และนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างเต็มที่

2. เป็นขั้นตอนที่จะต้องลงสารบำรุง หลังจากที่เราเปิดผิวไปแล้วคราวนี้เราก็จะต้องมาลงตัวยาที่มีฤทธิ์ในการช่วยบำรุงกันอย่าง Liposome pearl ซึ่งคุณหมอก็จะเลือกสูตรที่เฉพาะเจาะจงกับปัญหาผิวของคนไข้แต่ละคนเช่นเดียวกัน มีหลายสูตรให้เลือกเลยค่ะ เช่น สูตรจัดการสิว จัดการริ้วรอย แก้ฝ้า ปรับผิวหมองคล้ำ หรือต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น

3. ขั้นตอน Ultrapluse boosters หลังจากที่เราเปิดผิวแล้ว ลงตัวยาแล้ว คราวนี้ก็จะเป็นขั้นตอนที่ ช่วยผลักให้ตัวยาลงสู่ผิวชั้นลึกเหมือนกับ
ขั้นตอนการฉีดยานั่นเองค่ะ แต่ไม่ได้เป็นการฉีดนะคะ เพราะคุณหมอจะใช้เทคโนโลยีของเครื่องที่ให้พลังงานไฟฟ้าที่เสถียรคงที่ ในการเปิดปิด
ชั้นของเซลล์ผิวอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้ผลเหมือนการฉีดยาจริง ๆ แต่ไม่มีบาดแผล และไม่รู้สึกเจ็บค่ะ

โปรแกรม Trio-care เป็นการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีของตัวยาจากสเปนบริษัท ToSKani ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ยิ่งกว่าการทำทรีตเมนต์ เพราะเทียบเท่ากับการฉีด คุณหมอฝ้ายใส่ใจในทุกรายละเอียดของการคิดโปรแกรม เพื่อทำให้ผิวของคนไข้ได้รับการฟื้นฟูอย่างดีที่สุด

ผิวของคุณจะได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึกด้วย Liposome pearl

ในหัวข้อนี้เราจะมาแนะนำให้คนไข้ได้ทำความรู้จักว่า สารบำรุงที่เราจะนำไปใช้บำรุงกับผิวหน้าของคุณนั้นมีประเภทไหนบ้างซึ่งแต่ละประเภทคุณหมอฝ้ายก็จะเป็นคนวิเคราะห์และพิจารณาด้วยตัวเองว่า ผิวของคนไข้จะต้องใช้สารบำรุงตัวไหน เพื่อที่จะทำให้มีความเหมาะสมมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ผิวของคนไข้ที่มีความอ่อนแอ มีโอกาสแพ้
ในระดับสูง คุณหมอก็จะเลือกใช้ตัวยาที่มีความอ่อนโยนเช่นเดียวกัน หรือในกรณีที่ผิวของคนไข้มีความคล้ำเสียเยอะ มีรอยสิวเยอะ ก็จะต้องเลือก
ใช้ตัวยาที่มีความตอบโจทย์ในการจัดการกับปัญหารอยสิวเช่นเดียวกันค่ะ

1. MANDESOME DUO (Mandelic Acid Liposomal): ตัวยาที่มีความเป็นกรดและออกฤทธิ์ได้มากถึง 2 เท่า โดยมีส่วนผสมของกรดแมนเดลิก ที่เป็นกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี ใช้สำหรับการสร้างเม็ดสีผิวในผิวที่ผิดปกติและมีรอยดำทิ้งไว้หลังจากการอักเสบ สูตรนี้เหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิว
ได้ง่าย และช่วยผลัดเซลล์ผิวเพื่อทำให้เกิดความอ่อนเยาว์มากขึ้น
2. LACTISOME DUO (Liposomal Lactic Acid): สำหรับสูตรนี้เหมาะกับคนไข้ที่มีผิวบอบบาง ต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้กับ
ผิวมากขึ้นค่ะ โดยจะประกอบด้วยกรดแลคติค ซึ่งเป็นกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี ที่ทำให้มีโอกาสการระคายเคืองในระดับต่ำ จึงเป็นสูตรที่เหมาะกับ
ผิวแพ้ง่ายที่สุด เข้าไปช่วยบำรุงผิวทำให้มีความแข็งแรงมากขึ้น และยังช่วยบรรเทาผิวที่กำลังอักเสบ และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และในขณะ
เดียวกันก็ให้ผลในการต่อต้านริ้วรอยแห่งวัยด้วยค่ะ
3. SALISOME DUO (Liposomal Salicylic Acid): ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นสิวง่ายมาก สูตรนี้จะเหมาะกับคุณแน่นอน ประกอบด้วย
กรดซาลิไซลิก เหมาะสำหรับใช้บำรุงผู้ที่มีผิวมันที่มีแนวโน้มจะเป็นสิวและสิวเสี้ยน กรดซาลิไซลิกมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและฆ่าเชื้อ
แบคทีเรีย และมีประโยชน์อย่างยิ่งในการรักษารอยดำหลังการอักเสบ
4. GLYCOSOME DUO (Liposomal Glycolic Acid): เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของ เซลล์ผิวหน้าที่เริ่มเสื่อมสภาพแล้วเพราะว่ามีอายุ
มากขึ้น สูตรนี้ช่วยลดสัญญาณแห่งวัย กรดไกลโคลิกจะกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนและกระจายเมลานินในเซลล์ต้นกำเนิด ผลที่ดีต่อ
ผิวคือช่วยในการลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำที่เกิดจากอายุ จึงมีฤทธิ์ต่อต้านริ้วรอยที่โดดเด่นมาก

วิธีเตรียมตัวก่อนทำ Treatment และดูแลรักษาหลังทำ Treatment

• คุณไม่ควรสครับผิว 3-4 วันก่อนมาทำทรีตเมนต์ เพราะการสครับผิวเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป ทำให้ผิวหน้าค่อนข้างบอบบาง
• พยายามอย่าตากแดดจัด ๆ ในช่วง 3 – 4 วันก่อนมาทำทรีตเมนต์ เพราะอาจจะทำให้ผิวไหม้แดดและบอบบางเกินไปนั่นเองค่ะ
• ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าก่อนมาทำทรีตเมนต์เลยค่ะ แต่ก็ยังคงสามารถทาครีมกันแดดได้อยู่ และขั้นตอนก่อนการทำทรีตเมนต์ใด ๆ เราก็จะทำการคลีนหน้าให้คุณอยู่แล้ว

วิธีดูแลตัวเองหลังจากทำทรีตเมนต์

• ขอแนะนำให้คุณทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวหน้าเป็นประจำทุกวัน ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันแสงแดดแผดเผาผิวหน้าแล้วก็ยังทำให้ ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของการทำทรีตเมนต์คงอยู่ได้อย่างยาวนานมากขึ้น
• นอกจากจะไม่ควรสครับผิวหน้าก่อนที่จะมาทำทรีตเมนต์แล้ว หลังจากที่คุณทำทรีตเมนต์เสร็จไปแล้ว ขอแนะนำเพิ่มเติมว่า คุณไม่ควรที่จะสครับผิวหน้าซ้ำ ถ้าอยากจะสครับขอให้เว้นระยะออกไปอีกสักหน่อย ประมาณ 2 – 3 วัน เพราะถ้าสครับผิวซ้ำทันที ก็อาจจะทำให้ผิวของคุณนั้นบอบบางจนเกินไป
• หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือสารเคมีที่มีความรุนแรง