Anti-Aging
เรียกได้ว่าเป็นศาสตร์ที่ใช้ในการดูแลตัวเองของโลกยุคใหม่ ที่หลาย ๆ คนอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน วันนี้ทาง Artistry Clinic จะมาแนะนำให้คุณได้ทำความรู้จัก “ศาสตร์แห่งการชะลอวัย” นี้ให้ดีกัน โดย Anti-Aging เป็นศาสตร์ที่ใช้ในการดูแลสุขภาพของแต่ละบุคคล ซึ่งจะทำให้คุณรู้จักสภาพร่างกายของตัวเองจากภายในได้ดีขึ้น เน้นการป้องกันและบำรุง ก่อนที่ปัญหาจะเกิด หรือในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บ ปัญหาสุขภาพเรื้อรังต่าง ๆ ศาสตร์นี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เข้าไปช่วยคุณในการจัดการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งศาสตร์แห่งการชะลอวัยนี้ หลาย ๆ คนเข้าใจผิดคิดว่าจะต้องทำให้รูปลักษณ์ภายนอกดูดีดูเด็กกว่าอายุจริงเท่านั้น แต่จริง ๆแล้วศาสตร์แห่งการชะลอวัยเป็นศาสตร์ที่ปรับปรุงสุขภาพร่างกายจากภายใน จนมีความแข็งแรงมีความเปล่งออกสู่ภายนอกเรียกได้ว่าดูแลวิถีชีวิตแบบองค์รวม เพื่อที่จะทำให้คุณดูดีไปพร้อม ๆ กับความแข็งแรงกันเลยค่ะ
Anti-Aging คืออะไร
“เวชศาสตร์ชะลอวัย” จัดเป็นศาสตร์ทางการแพทย์แขนงหนึ่ง ที่ทำการวิเคราะห์ดูแลระดับเซลล์ในร่างกาย เพื่อปกป้องฟื้นฟูปรับสมดุลให้กับสุขภาพ เพื่อให้มีสุขภาพที่ยั่งยืน โดยที่การดูแลตัวเองแบบนี้มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ การดูแลตัวเองให้มีชีวิตที่ยืนยาวแบบมีสุขภาพดี และจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีไปพร้อม ๆ กัน การดูแลในแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย คือ การตรวจวิเคราะห์ในระดับโมเลกุล เพื่อหาความไม่สมดุลในร่างกายรวมถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคของแต่ละบุคคล เป็นการตรวจร่างกายที่ละเอียดมากขึ้น
เมื่อได้ข้อมูลจากการตรวจร่างกายอย่างละเอียดมาแล้ว คราวนี้คุณหมอก็จะนำข้อมูลที่ได้มาวางแผนเพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้กับคนไข้ ดูว่าคนไข้ต้องรับวิตามินอะไรเพิ่ม หรือต้องมีการออกกำลังกายเพิ่ม มีปัญหาในเรื่องใด แต่จะต้องแก้ไขทันทีไม่ว่าจะเป็นปัญหาการนอนหลับยาก รู้สึกมีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียว หรือปัญหาในเรื่องของภาวะต่าง ๆของร่างกาย เพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ไม่ทำให้ปัญหานั้นลุกลามบานปลายใหญ่โต และทุกคนจะได้มีอายุที่ยืนยาวแบบมีคุณภาพจริง ๆ
Anti-Aging เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้ที่ต้องเริ่มต้นดูแลตัวเองจากระบบภายใน เป็นการตรวจเช็กสภาพร่างกายอย่างละเอียด เพื่อนำไปวางแผนในการ ปรับปรุงคุณภาพการใช้ชีวิตในด้านต่าง ๆ ต่อไป แต่อย่างไรก็ตามขอแนะนำว่า การเข้ารับโปรแกรมชะลอวัยหรือ Anti-Aging ควรเริ่มต้นดูแลก่อนที่ร่างกายเกิดความเสื่อมถาวร หรือก่อนเกิดโรคร้ายแรง หรือโรคประจำตัวต่าง ๆ เพราะการแก้ไขและฟื้นฟูสุขภาพจะทำได้ดีกว่า คุณผู้หญิงควรเริ่มต้นดูแลในช่วงอายุ 30 ปี และผู้ชายควรเริ่มต้นดูแลในช่วงอายุ 40 ปี
บริการ Anti-Aging จาก Artistry Clinic
บริการ “เวชศาสตร์ชะลอวัย” จาก Artistry Clinic เป็นบริการที่ให้ความครอบคลุมทุกด้าน และให้บริการอย่างถูกต้องตามหลักของ Anti-Aging โดยคนไข้ที่สนใจอยากจะเริ่มต้นดูแลตัวเองด้วยศาสตร์นี้ จะต้องผ่านการตรวจร่างกายอย่างละเอียดเสียก่อน เพื่อค้นหาว่าร่างกายของคุณมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดโรคอะไรได้บ้าง หรือขณะนี้ร่างกายส่วนไหนของคุณกำลังร้องฟ้องเตือนว่า ใกล้จะมีปัญหาแล้วก็จะต้องรีบจัดการดูแลปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ปรับเปลี่ยนวิธีการกินต่าง ๆ โดยไว ก่อนที่จะโรคจะเกิดขึ้น จะได้เป็นการดำเนินไปสู่ช่วงวัยที่มากขึ้นอย่างแข็งแรงนั่นเองค่ะ
1. การตรวจ Stem Cell
เซลล์ชนิดนี้มีอยู่ในร่างกายของเราทุกคน และเป็นเซลล์ที่มีความสำคัญมากที่สุด เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่แห่งเซลล์เลยทีเดียว Stem Cell คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่มีการทำงานมากที่สุด ความสามารถของเซลล์ชนิดนี้ก็คือสามารถการพัฒนาตัวเอง ให้กลายไปเป็นเซลล์อื่น ๆ ภายในร่างกายของเราได้ และยังมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูเซลล์เก่าที่เสียหายไปแล้ว ช่วยลดการอักเสบในส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกาย ที่เสียไปแล้วก็ทำการซ่อมแซมฟื้นฟูเพื่อทำให้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง และในปัจจุบันนี้ สเต็มเซลล์ได้นำมาใช้ด้านการชะลอวัยด้วย
สรุปการทำงานของ Stem Cell แบบง่าย ๆ ก็คือไม่มีหน้าที่เฉพาะเจาะจง แต่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเอง พัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ มากมาย ทำให้เป็นเซลล์ในร่างกายของเราที่ช่วยต่อต้านความชราได้ดีมาก ๆ
2. ทำ PRP
เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่นำเกล็ดเลือดของคนไข้มาใช้ในการรักษาดูแลตัวเอง การทำ PRP ก็คือ การฉีด PRP ชื่อเรียกเต็ม ๆ ก็คือ Platelet Rich Plasma ส่วนวิธีการดูแลฟื้นฟูตัวเองด้วย เทคนิค PRP นี้ก็จะมีการนำเลือดจากคนไข้แค่เล็กน้อยเท่านั้น นำมาปั่น จนออกมาเป็นพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้น
นำไปฉายแสง หลังจากนั้นก็จะนำฉีดกลับไปในบริเวณที่คนไข้มีอาการบาดเจ็บ จุดประสงค์ก็คือช่วยลดความเจ็บปวด ลดการบาดเจ็บหรืออักเสบของเอ็นกล้ามเนื้อ เอ็นกระดูก รวมทั้งเนื้อเยื่ออ่อนต่าง ๆ และเทคนิค PRP ยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูเซลล์ได้อีกด้วย
โดยจะเข้าไปกระตุ้น ทำให้การซ่อมแซมความเสื่อมของเนื้อเยื่อและเอ็นดีขึ้น และยังนำมาใช้รักษากับคนไข้ที่มีอาการกล้ามเนื้อฉีกขาด เทคนิค PRP จะเข้าไปแทนที่ก้อนเลือดที่คลุมกล้ามเนื้อส่วนที่ฉีกขาด ทำให้มีอาการฟื้นตัวที่ดีขึ้น
3. ตรวจสมดุลฮอร์โมน
หน้าที่ของฮอร์โมนอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เลยก็คือทำหน้าที่แมสเซนเจอร์ส่งสารต่าง ๆ ภายในร่างกายนี่แหละ ซึ่งการส่งสารนี้ก็อาจจะทำให้ร่างกายในส่วนต่าง ๆ ทำงานได้เป็นปกติ แต่สิ่งที่จะเข้ามาทำให้ฮอร์โมนปั่นป่วนก็มีหลายปัจจัยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม การใช้ชีวิต การทานอาหารต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนได้
การส่งสารของฮอร์โมนไม่ได้เกี่ยวกับอารมณ์จิตใจความรู้สึกเท่านั้นแต่ยังเกี่ยวพันไปถึงเรื่องสุขภาพด้วย ไม่ว่าจะเป็น ระบบการย่อยอาหาร ระบบการเผาผลาญต่าง ๆ ของร่างกาย ในกรณีที่ผู้ส่งสารคนนี้เกิดความผิดปกติขึ้นมา ภาวะการทำงานร่างกายก็จะไม่สมดุล ทำให้เกิดปัญหาตามมามากมายไม่ว่าจะเป็น รู้สึกอ่อนเพลีย นอนหลับยาก นอนไม่หลับ ส่งผลต่ออารมณ์ ความเครียดต่าง ๆ ดังนั้นการตรวจความสมดุลของฮอร์โมนก็จะทำให้คุณทราบว่าขณะนี้ฮอร์โมนในร่างกายของคุณมีความปกติหรือไม่ ถ้าอยู่ในเกณฑ์ที่ปั่นป่วนควรจะต้องมีวิธีการรักษายังไง ก็จะต้องเป็นเรื่องที่ต้องวางแผนกันต่อไป
4. ตรวจหาโรคมะเร็งเชิงป้องกัน
เมื่อพูดถึงมะเร็งหลาย ๆ คนก็รู้สึกเกิดความกังวลแล้ว แต่ความกังวลของคุณในส่วนนี้สามารถบรรเทาได้ด้วยวิธีตรวจหาโรคมะเร็งเชิงป้องกัน หรือที่เรียกว่า Preventive Genetic Testing เป็นการตรวจหาความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ในแต่ละบุคคล โดยคุณหมอจะทำการรวบรวมยีนที่ผิดปกติของมะเร็งที่พบได้บ่อย นำมาทดสอบกับผู้เข้ารับบริการ
ซึ่งการตรวจหาความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งนี้ มีประโยชน์หลายประการเลยค่ะ โดยคนที่ได้รับประโยชน์อันดับหนึ่งก็คือตัวผู้เข้ารับบริการเอง และยังดีกับคุณหมอที่จะติดตามผลข้อมูลในส่วนนี้ และนำไปวางแผนรักษามะเร็งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ซึ่งการวางแผนรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ยิ่งเร็วยิ่งดี
เพราะว่าอาจจะทำให้มะเร็งมีโอกาสหายขาดไปเลย เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ การตรวจหามะเร็งระยะเริ่มต้นด้วยวิธีนี้อาจเป็นผลดีต่อการรักษาโรคในอนาคต เพราะว่าถ้าเกิดปวดแล้วพบความเสี่ยงขึ้นมาจริง ๆ คุณหมอก็จะนำไปวางแผนแนวทางการรักษาต่อไป ทำให้มีโอกาสหายขาดสูงสุดเกือบ 100% และทำให้ผู้ที่สงสัยว่าตัวเองอาจจะเป็นมะเร็งหรือเปล่าได้เตรียมความพร้อมทางจิตใจด้วยค่ะ
5. ตรวจสารโลหะหนัก Heavy Metal
ทราบหรือไม่คะว่า สารพิษโลหะหนักเป็นสารพิษที่ปะปนอยู่รอบตัวเรานี่แหละ และบางครั้งเราก็รับสารพิษเหล่านี้เข้าไปในร่างกายแบบไม่รู้ตัวเลย เพราะมันจะปนเปื้อนมาแบบแนบเนียนมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นจากการดื่มน้ำ การกินเข้าไป เพราะปนเปื้อนมากับอาหาร การสูดดม หรือแม้แต่การสัมผัสที่ผิวหนัง
สารพิษโลหะหนัก เช่น สารตะกั่ว สารปรอท สารหนู เป็นต้น ถ้ารับสารพิษเข้าเหล่านี้เข้ามานิดหน่อย ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อร่างกายมากนัก แต่ถ้าเกิดการสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็คราวนี้ ร่างกายของเราก็จะเริ่มส่งสัญญาณถึงความเจ็บป่วยแล้ว
อาการแรกเริ่มของความเจ็บป่วยที่พบได้จากการมีโลหะหนักในร่างกายเยอะเกินไปเช่น ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว หงุดหงิดง่าย เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการตรวจสารพิษโลหะหนักนี้ก็ทำให้เราทราบว่าร่างกายของเราได้รับการปนเปื้อนอยู่ในขีดอันตรายแล้วหรือยัง ถ้าเริ่มอันตรายแล้วก็มีวิธีกำจัดออกค่ะ
ขั้นตอนการทำ Anti-Aging เบื้องต้น
คุณหมอฝ้ายเป็นคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในระดับสูง เกี่ยวกับความรู้เรื่องเวชศาสตร์ชะลอวัยซึ่งคุณหมอเป็นผู้ที่ออกแบบโปรแกรมเสริมความสวยงาม การดูแลต่าง ๆ ของ ARTISTRY Clinic มาหลายโปรแกรมเลยค่ะ และสำหรับโปรแกรม Anti-Aging นี้คุณหมอก็จะออกแบบโปรแกรม ให้มีความเหมาะสมเฉพาะรายบุคคลเลยทีเดียว
- ขั้นตอนแรกเริ่มนี้คุณหมอฝ้ายจะสอบถามประวัติและตรวจร่างกายแบบเบื้องต้นก่อน คำถามที่คนไข้จะต้องเตรียมมาตอบเช่น ใช้ชีวิตประจำอย่างวันยังไง รับประทานอาหารแบบไหน มีรูปแบบการทำงานยังไง ได้ออกกำลังกายบ้างหรือไม่ การพักผ่อนเต็มที่เต็มประสิทธิภาพหรือเปล่า เป็นขั้นตอนเก็บข้อมูลค่ะ
- หลังจากนั้นคุณหมอก็จะนำข้อมูลที่ได้มาจากการซักถามในเบื้องต้น ไปวางแผนในการตรวจร่างกายแบบละเอียดลึกถึงเซลล์ต่อไปไม่ว่าจะเป็นการตรวจสเต็มเซลล์ การตรวจฮอร์โมน ตรวจระดับวิตามิน แร่ธาตุ เป็นต้นค่ะ
- การตรวจสุขภาพแบบ Anti-Aging ของ Artistry Clinic จะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และได้มาตรฐานสากลระดับที่จะวิเคราะห์ถึงการทำงานของระดับเซลล์ได้เลย และถ้าเซลล์มีการทำงานผิดปกติ ก็จะสามารถนำไปวางแผนแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วเลยค่ะ
- เมื่อเก็บรวบรวมข้อมูลแบบทั้งละเอียด และแบบเบื้องต้นมาครบแล้ว หลังจากนั้นคุณหมอก็จะนำมาวางโปรแกรมให้มีความลงตัวกับคนไข้แต่ละคน เพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และคุณหมอก็จะทำการติดตามผล Follow up คนไข้เป็นระยะตามช่วงเวลาที่กำหนดเอาไว้ค่ะ
วิธีเตรียมตัวก่อนทำ Anti-Aging และดูแลรักษาหลังทำ Anti-Aging
วิธีเตรียมตัวก่อนที่จะมาตรวจร่างกายด้วยศาสตร์ชะลอวัย ไม่ต้องเตรียมตัวให้ยุ่งยากเลยค่ะ เพียงแค่นอนพักผ่อนให้เพียงพอเท่านั้น ส่วนวิธีการดูแลตัวเอง คุณหมอก็จะวางโปรแกรมให้อีกทีหนึ่งหลังจากที่ทำการตรวจเสร็จแล้ว และคุณหมอก็จะทำการแนะนำให้ความรู้แก่คนไข้อย่างละเอียด เพื่อที่คนไข้จะได้นำความรู้ในส่วนนี้ไปดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันให้เกิดผลดีมากที่สุดค่ะ
รีวิวผลลัพธ์จากลูกค้าของ Anti-Aging
ทาง Anti-Aging มาพร้อมทีมงานที่มีความรู้และมีความเข้าใจในความกังวลของคนไข้แต่ละคนเป็นอย่างดี ดังนั้นพวกเราจึงพร้อมที่จะให้บริการอย่างดีที่สุด ต้อนรับด้วยรอยยิ้ม และพร้อมให้ความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง เพื่อที่คนไข้จะได้นำความรู้เหล่านี้ไปปรับดูแลตัวเองต่อไป
Artistry Clinic มีเชี่ยวชาญเรื่องการทำ Anti-Aging
คนไข้ที่เข้ามารับบริการกับ Artistry Clinic ทุกคนจะได้รับการดูแล โดย พญ. กษิรา เขมพิทักษ์ (คุณหมอฝ้าย) โดยตรง คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Anti-Aging ที่มีทั้งประสบการณ์และก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เพราะคุณหมอยังมีการอัปสกิลเสริมความรู้ใหม่ ๆ ในทุก ๆ วัน เพื่อนำมาปรับใช้ดูแลให้คนไข้มีสุขภาพที่แข็งแรงและ มีผลลัพธ์ที่ออกมาดีมากที่สุด
- อย่ารอให้เกิดปัญหาทางร่างกายก่อนเลย เพราะการที่เรามีข้อมูลของตัวเองเอาไว้ก่อนในเบื้องต้น จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ โรคภัยต่าง ๆ ได้
- การลงทุนกับสุขภาพของตัวเองเป็นการลงทุนที่มีคุณค่ามาก นอกจากจะทำให้คุณมีสุขภาพแข็งแรงมีชีวิต ที่มีความสุขแล้วในขณะเดียวกัน ก็ยังมีแรงในการทำงานออกไปใช้ชีวิตได้แบบแฮปปี้ และสดชื่นในทุก ๆ วันกันเลยค่ะ
ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
Artistry Clinic by Khempitak
ซ.โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว
ถ.บางนาตราด ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
065-959-7215
Line : artistryclinic